“เจ้าท่า” ชี้เรือข้ามฟากโคลงเป็นเรื่องธรรมชาติ ยันปลอดภัย
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (ด้านปลอดภัย) เปิดเผยถึงกรณีคลิปวิดีโอเหตุการณ์เรือข้ามฟากโคลงเคลง ขณะกำลังให้บริการข้ามฟากจากท่าวัดระฆังไปท่าช้าง จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.00 นคำพูดจาก ทดลองใช้ สูตรสล็อต. วันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องธรรมชาติของเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากมีเรือจำนวนมากในบริเวณนั้น ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา เรือไฟฟ้า เรือข้ามฟาก เรือลากจูง เรือดินเนอร์ครุยส์ และเรือยอชท์ส่วนตัว ซึ่งเป็นการใช้แม่น้ำร่วมกัน เมื่อมีเรือให้บริการจำนวนมากจึงเกิดคลื่นจากเรือวิ่ง แต่ที่ผ่านมายืนยันว่า มีการกำหนดความเร็วเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่แล้ว โดยจะต้องไม่เกิน 15 นอต หรือประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากนี้ ตามปกติเรือข้ามฟากจะวิ่งขวางคลื่น เมื่อตกร่องคลื่นจึงเกิดการโคลงเคลง ซึ่งตามธรรมชาติเรือจะสามารถเอียงได้ถึง 45 องศา และภายในเรือจะต้องมีห้องผนึกน้ำที่ทำให้เรือลอยได้ และเรือทุกลำจะมีการคำนวณเรื่องการทรงตัวเรือว่า หากเอียงเกิน 45 องศา จะต้องไม่คว่ำหรือจม เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
นายภูริพัฒน์ กล่าวต่อว่าส่วนกรณีที่ผู้โดยสารไม่สวมเสื้อชูชีพขณะโดยสารนั้น เรือข้ามฟากเป็นการให้บริการในระยะทางที่สั้นที่ผ่านมาไม่มีกฎหมายควบคุมว่า ผู้โดยสารจะต้องสวมชูชีพ แต่กำหนดว่าในเรือจะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย เช่น ห่วงยาง และเสื้อชูชีพ จะต้องมีเพียงพอให้สามารถหยิบฉวยได้เมื่อเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้ติดตามการใช้ความเร็วในแม่น้ำเจ้าพระยามาโดยตลอด ขณะนี้เรือบางลำได้ติดตั้งจีพีเอส ซึ่งหากมีการใช้ความเร็วจะสั่งหยุดเดินเรือทันที ขณะเดียวกันในอนาคตอาจจะต้องมีการพิจารณาเรื่องการปรับลดความเร็วเรือในบางพื้นที่ที่มีเรือใช้งานเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการเดินเรือต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการเรือโดยสารใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ และปฏิบัติตามกฎระเบียบในการเดินเรืออย่างเคร่งครัด